Visited +5.24K Times
3 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการรักษา โรคหวัด
โรคหวัด โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัส และมักจะเกิดในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ช่วงหน้าฝน หรือในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น ซึ่งวิธีการรักษาโดย่สวนใหญ่มักรักษาตามอาการที่แสดงแตกต่างกันไปแต่ละคน อาการของ โรคหวัด โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคหวัด มักมีอาการที่พบได้บ่อย เช่น อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล และเจ็บคอ อาจมีไข้ หรือมีอาการไอร่วมด้วย แต่โดยทั่วไป มักสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ จากภูมิคุ้มกันของร่างกายแต่ละบุคคล เฉลี่ยภายใน 7-10 วัน 3 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการรักษา โรคหวัด 1. วางก้อนน้ำแข็งบนท้ายทอย ช่วยให้หายจากโรคหวัด? จริง ๆ แล้ว น้ำแข็งมีประโยชน์ในด้านการช่วยบรรเทาอาการบางอย่าง เช่น บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ จากคอเคล็ด การนอนตกหมอน หรือช่วยลดอาการอักเสบ อาการปวดในระยะช่วงเริ่มต้น แต่ น้ำแข็ง ไม่ได้มีสรรพคุณในการช่วยรักษาหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำน้ำแข็งวางบนท้ายทอยเพื่อรักษาอาการหวัด 2. การนำสำลีชุบแอลกอฮออล์วางบนสะดือ เพื่อรักษาโรคหวัด หนึ่งในความเชื่อและข่าวแชร์ผิด ๆ ที่ว่า หากนำสำลีมาแช่ หรือชุบแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 50% เป็นต้นไป แล้วนะไปวางบนสะดือ จะช่วยรักษาโรคหวัด อาการไข้สูง ตัวร้อน อาการไอ อาการปวดท้อง หรือแม้กระทั่งช่วยเรื่องอาการปวดท้องประจำเดือนได้นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และไม่ได้ช่วยในด้านการรักษาโรคหวัดแม้แต่น้อย 3. ทานเบกกิ้งโซดา ช่วยให้หายจากไข้หวัด/ไข้หวัดใหญ่ ความเชื่อเรื่องการทานเบกกิ้งโซดาที่นำไปละลายน้ำ จะช่วยรักษาไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่นั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากเบกกิ้งโซดา หรือ โซเดียมไบคาร์บอเนต คือส่วนผสมในการทำเบเกอรี่เท่านั้น ไม่มีผลต่อการรักษาโรคใด ๆ ทั้งสิ้น การรักษาโรคหวัดเบื้องต้นที่ถูกวิธี✔ ดื่มน้ำมาก ๆ ในปริมาณที่เพียงพอแต่ละบุคคล พักผ่อน นอนหลับให้เพียงต่อ ใช้ยาสามัญประจำบ้านในการบรรเทาอาการเบื้องต้น เช่น ยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก หรือยาแก้ไอ
หรือ ทำการนัดหมายได้ที่ ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลมหาชัย 3
ช่องทางติดต่อเพิ่มเติม
034-428491, 034-428492, 034-428493, 034-428494 ต่อ 124,118
ตรวจสุขภาพประจำปี รู้ทันโรคร้ายที่อาจมาเยือนไม่รู้ตัว
การตรวจสุขภาพประจำปี สำคัญอย่างไร? จุดประสงค์หลักของการตรวจสุขภาพประจำปี คือ ตรวจคัดกรองเบื้องต้นตามปัจจัยเสี่ยงส่วนบุคคล โดยตรวจหาโรคแฝงที่เราเสี่ยงที่จะเป็น อาจด้วยพันธุกรรม หรือโรคที่พบบ่อย เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง มะเร็งในระยะแรกอย่าง มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น ตรวจหาพฤติกรรมเสี่ยง หรือปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดโรค เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกิน เป็นต้น การตรวจสุขภาพประจำปีในแต่ละช่วงอายุ 1. ผู้ที่มีอายุ 30 – 50 ปี เนื่องจากเป็นวัยที่มักมีภาระความรับผิดชอบในการทำงานที่สูงกว่าวัยอื่น มีเวลาดูแลตัวเองน้อยและมีความเครียดอย่างที่กล่าวไปข้างต้น โดยการตรวจเบื้องต้นที่แนะนำ คือ การตรวจร่างกายทั่วไป และหากมีประวัติคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง เบาหวาน มะเร็ง หรืออื่นๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบตอนซักประวัติ เพื่อรับข้อแนะนำที่เหมาะสมสำหรับการตรวจสุขภาพ ตรวจการได้ยิน และตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน การตรวจหาความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และภาวะซึมเศร้า หากดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือมีประวัติใช้สารเสพติด ควรเข้ารับการตรวจประเมินสภาวะสุขภาพเพิ่มเติมเป็นพิเศษด้วย ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป จะมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น ดังนั้น นอกจากการตรวจข้างต้นแล้วแนะนำให้ตรวจรายการเพิ่มเติมคือ – ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างน้อยปีละครั้ง หรือตามที่สูตินรีแพทย์แนะนำ – อายุ 30 – 40 ปี หากประสงค์ตรวจเต้านม แนะนำตรวจคัดกรองด้วยการทำอัลตร้าซาวด์ – อายุตั้งแต่ 40 ปี ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรม อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ข้อมูลเพิ่มเติม มะเร็งปากมดลูก และ มะเร็งเต้านม ผู้ที่อายุระหว่าง 40 – 50 ปี ควรตรวจวัดสายตาและสุขภาพดวงตาเพิ่มเติมด้วย – คัดกรองโรคต้อหิน ภาวะความดันลูกตาสูง ความผิดปกติอื่น ๆ อย่างน้อย 1 ครั้ง 2. ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ควรรับการตรวจสุขภาพประจำปีเหมือนกับกลุ่มวัยทำงาน แต่จะมีการตรวจที่แนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม เนื่องจากอยู่ในวัยที่พบโอกาสที่จะเป็นโรคต่าง ๆ ได้มากขึ้น ได้แก่ ตรวจอุจจาระ ปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง ตรวจปัสสาวะ ปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจคัดกรองความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ การตรวจด้านภาวะทางโภชนาการ เช่น ระดับสารอาหารวิตามินต่าง ๆ ตรวจเลือดเพื่อหาสารบ่งชี้มะเร็งตับ (AFP) ควรตรวจวัดระดับน้ำตาล ตรวจไขมันในเลือด และประเมินภาวะการทำงานของไต ด้วยการตรวจวัดระดับครีอะทีนิน (creatinine) เป็นประจำ ตามที่แพทย์แนะนำ ตรวจส่องกล้องทางเดินอาหารเพื่อคัดกรองมะเร็งลำไส้ และ ตรวจติดตามทุก 5-10 ปี ตามนัดหมายแพทย์ อายุ 60 ปีขึ้นไป ควรตรวจวัดความเสี่ยงภาวะกระดูกพรุน อายุ 60 – 64 ปี ควรตรวจตาทุก 2 – 4 ปี อายุ 65 ปีขึ้นไป ควรตรวจตาทุก 1 – 2 ปี และตรวจประเมินสมรรถภาพสมอง
องค์กรหุ่นดี สุขภาพดีด้วย 2B Safety
โครงการ “องค์กรหุ่นดี สุขภาพดีด้วย 2B Safety” ระยะเวลา 1 ปี วัตถุประสงค์เพื่อ พนักงานลดเส้นรอบพุงให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ (≤ ค่าส่วนสูง / หาร 2) พนักงานลดBMI ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ (18.5-22.9) พนักงานมีบุคลิกภาพที่ดี สุขภาพดี มั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้น พนักงานไม่เกิดโรคเรื้อรัง NCDs
การประชุมวิชาการ HA National Forum ครั้งที่23
การประชุมวิชาการ HA National Forum ครั้งที่23 ผนึกกำลัง เพื่อความปลอดภัยและสุขภาวะ
วัคซันป้องกันไข้หวัดใหญ่
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 400 บาท และ 7 กลุ่มเสี่ยงที่ควรฉีด
ลงทะเบียนโควิด
สำหรับผู้ประกันตน โรงพยาบาลมหาชัย 3 ตรวจ ATK เป็นผลบวก รักษาแบบผู้ป่วยนอก ลงทะเบียนล่วงหน้าและรับยาตอนเย็น สำหรับผู้ติดเชื้อกลุ่มอาการสีเขียว (ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย ) สามารถลงทะเบียนรักษาล่วงหน้า ตั้งแต่เวลา 00.00-12.00 น. และรับยาได้ตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น ด้วยความห่วงใยจากโรงพยาบาลมหาชัย 3